หน้าแรก · Smart Devices · ภาพยนต์ · คลิปวีดีโอ · สร้างรูปติดบัตรออนไลน์ · ใส่วันที่ในรูปถ่าย · นโยบายการให้บริการ
เนื้อหาสาระ ห้องภาพมาโคร สินค้า ข้อมูลกล้อง ข้อมูลเลนส์ ข้อมูลเครื่องพิมพ์ เปรียบเทียบสเป็ค
รีวิวกล้องแอคชั่นแคมระหว่าง EKEN H9 และ GoPro Hero 4 Silver
EKEN H9 vs GoPro Hero 4 Silver

ผมได้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องวีดีโอประเภทพกพาหรือที่หลายคนมักจะเรียกว่ากล้องแอคชั่นแคมมาหลายรุ่น ทั้งจากยี่ห้อตลาดอย่าง SJCam และก็พวกกล้องเลียนแบบทั้งหลาย เพราะเนื่องจากส่วนตัวเคยจะหาซื้อกล้องติดรถยนต์ที่มีความคมชัดสูงๆไว้ใช้เองสักตัว แรกๆก็เคยลองดูพวกกล้องติดรถยนต์ (Car DVR) โดยเฉพาะเป็นหลักเพราะคิดว่ามันน่าจะตรงตามความต้องการเดิมอยู่แล้ว แต่พอคิดไปคิดมาก็นึกถึงกล้องประเภทแอคชั่นแคมขึ้นมาเพราะมองถึงเรื่องความคมชัดที่เหนือกว่าพวกกล้องติดรถยนต์ทั่วไปอยู่หลายเท่าในราคาที่พอๆกัน แถมยังใช้งานได้หลากหลายเอนกประสงค์กว่า แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าโหมดการบันทึกวีดีโอมันมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และในส่วนที่ต่างกันนี้มันมีความจำเป็นในการใช้งานของเราจริงจังแค่ไหนเท่านั้น

แน่นอนว่ากล้องประเภทแอคชั่นแคมในวงการหลายคนคงต้องนึกถึงกล้องยี่ห้อ GoPro ก่อนเป็นอันดับแรกๆ เพราะเชื่อมั่นในชื่อเสียงและคุณภาพของยี่ห้อนี้ว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการและเหมือนเป็นยี่ห้อแรกๆเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยราคาที่ยังค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร ผมก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ลองเล่นเองสักเท่าไหร่ พอมาช่วงระยะหลังๆก็เริ่มมีกล้องยี่ห้ออื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกันออกมาวางขายในตลาดมากขึ้น ลักษณะรูปทรงที่เห็นจากภายนอกก็ดูคล้ายคลึงกันมากอีกด้วย ซึ่งโดยส่วนมากก็จะเป็นกล้องยี่ห้อของทางจีนซะเป็นส่วนใหญ่ และเพราะด้วยลักษณะภายนอกที่ดูเหมือนๆกันนี้ก็อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่ามันคงจะใช้งานได้เหมือนๆกัน ซึ่งก็มีส่วนถูกและผิดปนเปกันไป แต่กว่าผู้ใช้จะรู้ถึงคุณภาพหลายคนก็มักจะเสียตังค์ซื้อกันไปลองใช้งานจริงๆก่อนจึงค่อยรู้ว่า ความเหมือนจากภายนอกนั้นมันมีความต่างกันในแง่คุณภาพอยู่พอสมควร

ก็อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า... ส่วนตัวผมกำลังมองหากล้องบันทึกวีดีโอดีๆเพื่อใช้ติดรถยนต์ และอาจจะนำมาใช้ในกรณีที่พกพาไปถ่ายเวลาท่องเที่ยวหรือไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวันสักตัวอยู่แล้ว จึงต้องสรรหาสเป็คที่ถูกใจตัวเองอยู่สักหน่อย กล้องวีดีโอประเภทพกพาและสมบุกสมบันทนทานกันน้ำกันฝนได้เวลานำมาพกติดตัว ก็เลยมาลงเอยที่กล้องประเภทแอคชั่นแคม (Action Camera) ซึ่งยี่ห้อที่ผมได้ทดลองเล่นแล้วค่อนข้างถูกใจเป็นอย่างดีก็คือยี่ห้อ EKEN นี่แหล่ะครับ สาเหตุหลักเลยคือคุณภาพความคมชัดของไฟล์วีดีโอมันเทียบกับกล้องอย่าง GoPro ได้อย่างสบายๆในราคาที่ถูกกว่ากันหลายเท่า และแน่นอนว่าคุณภาพของกล้องระดับนี้ยังไงก็ดีกว่ากล้องสำหรับติดรถยนต์ที่มีราคาใกล้เคียงกันในท้องตลาดทั่วไปอย่างแน่นอน ในบทความนี้ผมจึงลองหาคลิปจากต่างประเทศที่เค้ามีการเปรียบเทียบกล้อง EKEN กับ GoPro Hero 4 ซึ่งจัดเป็นกล้องวีดีโอขนาดพกพาระดับแถวหน้าของวงการ มาเปรียบเทียบกันแบบช็อทต่อช็อทเพื่อให้คนที่กำลังสนใจลองพิจารณากันดูครับ

กล้องที่จะนำมาเปรียบเทียบกันนี้คือ EKEN H9 และ GoPro Hero 4 Silver ตามในภาพข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นคลิปจากผู้ใช้ในต่างประเทศ ได้ทำการรีวิวกล้องทั้งสองรุ่นนี้ขึ้นมา โดยในคลิปได้มีการระบุว่ากล้องทั้งสองตัวนี้บันทึกที่ความละเอียด 1080/60fps ระยะเลนส์ของ EKEN มุมมองจะอยู่ที่ระยะ 170 องศาอยู่แล้ว ซึ่งกล้อง GoPro ก็ต้องปรับระยะมุมมองของเลนส์มาเป็น Wide Angle จึงจะมีมุมมองใกล้เคียงกัน และกล้อง EKEN ได้มีการปรับค่า Exposure ลง -0.7 (ซึ่งจุดนี้ไม่แน่ใจว่ามีการลดความสว่างลงไว้เพื่ออะไร)


เริ่มดูในสภาพแสงน้อยกันก่อนเลย จะเห็นได้ว่า EKEN H9 นั้นเมื่อเจอแสงน้อยจะสู้กล้องแพงอย่าง GoPro Hero 4 ไม่ค่อยได้แต่เรื่องความคมชัดของภาพสู้กันได้อยู่ครับ


แต่อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจไปครับ ลักษณะของภาพด้านบนอาจจะมีแสงจากด้านหลังลอดมาแซมทำให้ EKEN คำนวนแสงผิดพลาดเหมือนการถ่ายภาพย้อนแสง แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ๆพอมีแสงอยู่บ้างและไม่ได้มีลักษณะที่ย้อนแสงเจ้า EKEN H9 ก็แสดงให้เห็นถึงขุมพลังของมันว่ากล้องราคาถูกก็มีดีให้เห็นอยู่เช่นกัน


ออกมาดูแสงกลางแจ้งกันบ้าง จะสังเกตเห็นได้ว่าเกือบทุกภาพเลยเจ้า EKEN จะให้ภาพที่มีดูมืดกว่า GoPro เล็กน้อย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดการจากการปรับค่า Exposure ไปที่ -0.7 ในขั้นตอนทดสอบนี้หรือไม่ แต่เรื่องความคมชัดหรือสีสันที่หนักแน่น EKEN ยังให้รายละเอียดความคมชัดของภาพวีดีโอได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด


และอย่างที่บอกแหล่ะครับว่า EKEN สามารถแสดงรายละเอียดความคมชัดในภาพได้ดีกว่า GoPro อย่างที่รู้สึกได้ ลองดูบริเวณกำแพงสีขาวที่แขวนนาฬิกาดูครับ ในมุมมองเดียวกัน EKEN จะให้ภาพที่เห็นรายละเอียดได้ดีกว่า GoPro จริงๆ


แต่ชาว GoPro ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะเมื่อใดที่ลักษณะแสงในภาพมีความเปรียบต่างกันแบบภาพนี้ โดยเฉพาะกำแพงสีขาวนั้นเป็นตัวหลอกระบบวัดแสงของกล้องได้เป็นอย่างดี อย่างกรณีที่ชายผิวสีท่านนี้เดินผ่านกำแพงสีขาวกล้อง GoPro จะสามารถแสดงรายละเอียดในส่วนมืดได้ดีกว่า EKEN เพราะระบบวัดแสงของ GoPro น่าจะแยกแยะแสงได้ดีกว่า แต่ความคมชัดของภาพ GoPro ยังคงเป็นรอง EKEN อยู่เช่นเดิม ซึ่งไม่แน่ใจว่าชิปประมวลผลของ EKEN มีการเพิ่มคอนทราสให้ภาพมากกว่าปกติหรือไม่ หรืออาจจะเป็นเพราะการตั้งค่ากล้อง EKEN ในการทดสอบนี้แต่แรกให้มีการลดค่า Exposure ลงมาที่ -0.7 ซึ่งก็อาจส่งผลในเรื่องความสว่างได้เช่นกัน


มาดูแสงธรรมชาติกับบริเวณต้นไม้ใบหญ้าบ้าง EKEN ยังให้สีสันที่หนักแน่นเช่นเคยซึ่งส่งผลให้ภาพดูมีรายละเอียดที่คมชัดกว่า GoPro แต่ GoPro ก็ยังคงให้รายละเอียดในส่วนมืดได้ดีกว่าเหมือนเคยเช่นกัน


ภาพมุมมองบนท้องฟ้าก่อนจะแพนกล้องลงมาด้านล่าง แน่นอนว่า EKEN ยังคงให้สีสันที่หนักแน่นอย่างเห็นได้ชัด อย่างเช่นสีของท้องฟ้าในช็อทนี้ซึ่งเทียบกันในช็อทนี้ GoPro อาจจะดูว่าให้สีที่ตุ่นกว่าแต่ก็อาจจะใกล้เคียงความจริงมากกว่าเช่นกันนะครับ


ช็อทนี้ชาว GoPro อย่าน้อยใจไปนะครับ แต่ผมมองว่า EKEN ทำได้ดีกว่าจริงๆ ทั้งเรื่องของรายละเอียดในภาพ และแม้ว่าโทนแสงที่อาจจะดูมืดกว่า GoPro ไปบ้างเล็กน้อยแต่ก็เป็นที่ยอมรับได้เมื่อเทียบกับภาพรวมและราคาของกล้อง


อย่างที่บอกแหล่ะครับว่าเรื่องของสีสันที่หนักแน่นและรายละเอียดความคมชัดต้องยกให้ EKEN เค้าว่าเหนือกว่าจริงๆ สังเกตที่พื้นดูก็ได้ครับว่า EKEN ให้รายละเอียดคมชัดดีกว่า GoPro ในสภาพแสงที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างกันเท่าไหร่ในภาพ แต่ถ้าเมื่อใดที่เจอสภาพย้อนแสงก็ต้องยอมหลีกทางให้ GoPro ไปล่ะครับ


เมื่อมีคนเป็นตัวแบบในภาพ สีผิวที่ได้จากกล้อง EKEN ก็อาจจะดูจัดจ้านกว่าปกติไปนิด แต่สำหรับ GoPro น่าจะดูกำลังดีออกซ็อฟๆนิดๆ ถ้าเน้นถ่ายคนโทนภาพนุ่มๆไม่เน้นแบบคมชัดเห็นสิว GoPro ทำได้ดีกว่าครับ


อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรกแหล่ะครับว่า EKEN ให้ความคมชัดจัดจ้านในเกณฑ์ที่ดีกว่า GoPro แต่ต้องแลกกับรายละเอียดในส่วนมืดที่มักจะสู้ GoPro ไม่ค่อยได้ ยิ่งเมื่อยามที่แสงในภาพมีความเปรียบต่างกันแบบภาพนี้


แต่ความที่ EKEN ให้สีได้จัดจ้านพร้อมคอนทราสที่หนักแน่นกว่า GoPro ก็ทำให้ได้เปรียบเมื่อสภาพแสงโดยรวมในภาพไม่ค่อยต่างกัน อย่างกรณีนี้แสงสว่างจากพื้นหลังยังมองเห็นไม่เยอะ จึงทำให้ฉากหน้าที่เป็นดอกไม้ดูสว่างได้ทั่วถึงและความคมชัดเห็นรายละเอียดได้ดีกว่า GoPro


แต่เมื่อแพนกล้องเงยขึ้นเพื่อให้เห็นฉากหลังมากขึ้น ก็ทำให้แสงในภาพมีความเปรียบต่างกันกับฉากหน้า หรือที่ภาษานักถ่ายภาพมักจะบอกว่า "ย้อนแสง" หรือโดนแสงหลอก แม้ภาพนี้จะไม่ได้ย้อนแสงอะไรมากมายถ้าเทียบกับการถ่ายภาพแบบย้อนแสงพระอาทิตย์แบบจริงๆจังๆ แต่ก็มากพอที่จะทำให้ EKEN โดนแสงจากฉากหลังหลอกจึงทำให้ดอกไม้ที่เป็นฉากหน้าดูมืดลงเมื่อเทียบกับ GoPro


อันนี้ก็เป็นอีกมุมนึงที่คล้ายๆกับกรณีข้างบน นั่นคือแสงในภาพไม่ค่อยมีความเปรียบต่าง EKEN จะดูเป็นพระเอกในทันที ส่วน GoPro เป็นได้แค่เพื่อนพระเอก


แต่ถ้าแพนกล้องไปในทิศทางที่มีแสงลอดเข้ามาในภาพ แล้วทำให้ภาพมีแสงที่มีความเปรียบต่างกันพอสมควรเกิดขึ้น GoPro ก็ดูดีกว่า EKEN ขึ้นมาทันทีครับ


อย่างที่บอกแหล่ะครับว่าเมื่อย้อนแสงเมื่อใด GoPro จะแสดงอนุภาพที่ดูดีกว่า EKEN มากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าลืมนะครับว่าเรื่องความคมชัดของภาพวีดีโอ EKEN ไม่เคยแพ้ GoPro ในทุกสภาพแสงไม่เชื่อลองสังเกตพื้นน้ำในภาพดูครับ


หากเจอช็อทย้อนแสง EKEN แทบจะต้องยอมศิโรราบ GoPro เกือบทุกครั้ง แต่ถ้ามุมภาพที่มีแสงปกติล่ะก้อ GoPro ต้องเป็นฝ่ายคิดหนักหน่อยแหล่ะครับ ลองดูความคมชัดบริเวณพื้นกับบริเวณน้ำตกดูครับ


แต่พอย้อนแสงเมื่อไหร่ EKEN มักจะโดนแสงหลังหลอกประจำอย่างเช่นภาพนี้ แต่รายละเอียดความคมชัดยังจัดเต็มให้อยู่นะ


เท่าที่มองผมคิดว่าสีที่ตรงความจริงมากที่สุดยังเป็น GoPro ครับ แม้ความคมชัดจะสู้ EKEN ไม่ได้โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคายิ่งหวั่นใจ แต่ถ้าชอบโทนสีนุ่มๆ ความสมดุลย์ของแสงขาว (WB) ตรงความจริงมากที่สุด GoPro มาวินครับ


แต่ถ้าใครชอบไฟล์วีดีโอที่คมชัด และสีสันหนักแน่นคอนทราสจัดจ้าน ต้องยกให้ EKEN เค้าครับ ส่วนนึงคงเป็นเรื่องของชิปที่ประมวลผลบวกกับอัลกอริทึ่มในตัว Hardware ของกล้องนั่นด้วยว่าผู้ออกแบบคงเน้นที่จะเอาชนะกล้องอื่นด้วยสไตล์นี้เป็นหลัก


มาดูสภาพแสงในอาคารกันบ้างครับ แม้ว่าแสงในอาคารอาจไม่สว่างสดใสแบบกลางแจ้ง แต่ถ้าไม่ได้ย้อนแสงล่ะก้อ EKEN เบียดกับ GoPro ได้สบายหายห่วงครับ แต่ GoPro ยังมีดีเรื่องของ WB ที่เที่ยงตรงกว่า (สังเกตได้จากผลไม้สีแดงในภาพ) แต่ความคมชัด EKEN ยังดูดีกว่าทุกสภาพแสงนะจ๊ะ ไม่เชื่อดูตัวเลขที่ป้ายราคานั่นเลย


สำหรับช็อทนี้ แสงสว่างที่ปรากฎในฉากหลังยังไม่มากพอที่จะหลอกกล้อง EKEN ให้หลงทางได้ (แต่ถ้าเป็นแสงกลางแจ้งล่ะก็ไม่แน่) จึงทำให้ยังคงเห็นรายละเอียดของดอกทานตะวันสีเหลืองด้านหน้าอยู่บ้าง ส่วนเรื่องความคมชัดลองสังเกตดูเองครับ GoPro คงต้องกลับไปทำการบ้านมาสักหน่อยในรุ่นหน้า


แต่ก็อย่างที่บอกแหล่ะครับว่า WB ของ EKEN ยังคงเป็นฝ่ายตาม GoPro อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สีที่ควรจะเป็นเหลืองของ EKEN ก็ดูเหมือนจะติดแดงมากกว่า นี่ถ้าไม่เอามาวางเทียบกันในมุมเดียวกันนี้ก็อาจจะไม่ได้สนใจอะไรแล้ว แต่พอเอามาวางเทียบกันก็จะเห็นเลยว่าเหลืองแบบไหนที่ควรจะใกล้เคียงของจริงมากที่สุด แต่เรื่องความคมชัดนั้นต้องยอมรับว่า EKEN ยังทำได้ดีกว่าในทุกสภาพแสงจริง


แต่แสงบางโทนก็ยังพอใกล้เคียงกันอยู่นะ มันอยู่ที่แสงในภาพล้วนๆเลยว่ากล้องตัวไหนจะประมวลผลได้ดีกว่ากัน


แสงในอาคารอีกมุมหนึ่ง WB ของ GoPro มักจะดูดีกว่า EKEN นะครับ แต่สำหรับมุมนี้ผมว่า EKEN ดูพอดีกว่าอาจเป็นเพราะความจัดจ้านของสีที่แลดูคมเข้มกว่าจึงทำให้ดูว่าออกมาได้โทนกำลังดี ในขณะที่ WB ของ GoPro ดูติดฟ้าไปนิดอาจเป็นเพราะโทนสีที่อ่อนกว่าด้วยเล็กน้อยจึงทำให้เห็นสีเป็นแบบนั้น


เมื่อแสงเริ่มน้อย GoPro ก็ยิ่งดูหล่อขึ้นเรื่อยๆนะครับ ในขณะที่ EKEN ทำได้แค่วิ่งตามอยู่ใกล้ๆ


สรุปข้อดี-ข้อเสียของกล้องทั้งสองรุ่น

ข้อดีของ EKEN

  1. ราคาถูกกว่า GoPro หลายเท่า ราคาจะอยู่ในช่วง 2,xxx ถึง 4,xxx บาท (แล้วแต่รุ่นและ Option)
  2. ความคมชัดเหนือกว่ากล้อง GoPro ในทุกสภาพแสง
  3. สีสันจัดจ้าน คอนทราสคมเข้มกว่า GoPro
  4. สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K/25fps ในขณะที่บางยี่ห้อถ่าย 4K ไม่ได้หรืออาจจะได้แต่ FPS น้อยกว่า
  5. เฟรมเรทสูงสุด 120fps ที่ความละเอียด HD 720p ข้อนี้อาจไม่ได้เหนือกว่า GoPro แต่ดีกว่ายี่ห้ออื่นๆครับ
  6. เลือกบันทึกวีดีโอได้ยาวแบบไฟล์เดียวจนกระทั่งการ์ดหน่วยความจำเต็ม หรือเลือกบันทึกแบบโหมด Time Lapse (เป็นภาพนิ่งแบบเว้นช่วงระยะเวลา)
  7. ชิ้นเลนส์แก้วพร้อมโค็ทติ้งหน้าเลนส์แก้ความต่างของสี
  8. มุมมองของเลนส์กว้างถึง 170 องศา
  9. รองรับการใช้งานผ่าน Wifi
  10. มีการอัพเดท Firmware จากผู้ผลิตเป็นระยะๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวกล้องให้ดียิ่งขึ้น
  11. มีจอ LCD แสดงภาพที่บันทึกด้านหลังขนาด 2 นิ้ว ในขณะที่ GoPro บางรุ่นไม่มีจอ LCD ด้านหลัง
  12. อุปกรณ์เสริมที่มีมาในกล่องค่อนข้างหลากหลาย เช่น เคสกันน้ำ, อุปกรณ์สำหรับใช้ติดกับยานพาหนะ หรือสวมใส่ติดตั้งกับตัวผู้ใช้งานได้ทันที ในขณะที่ทาง GoPro ต้องซื้อเพิ่ม

ข้อเสียของ EKEN

  1. WB โดยรวมดูออกโทนส้ม/แดงมากกว่า WB ของ GoPro
  2. เมื่อเจอมุมมองที่ย้อนแสง มักจะโดนแสงหลอกทำให้ไม่ค่อยเห็นรายละเอียดในส่วนที่มืด
  3. เสียงที่บันทึกในวีดีโอฟังได้ปกติ แต่ความทุ้มแหลม เท่าที่ฟังจากในคลิปดูเหมือนว่าเสียงที่อัดจากกล้อง GoPro จะน่าฟังกว่าเล็กน้อย

สรุปแบบสั้นๆ

  1. GoPro ควบคุมโทนแสงได้ดีเกือบทุกสภาพแสง แต่ไฟล์วีดีโอที่ได้ดูแล้วคมชัดน้อยกว่า EKEN (ภาพยังออกซ็อฟๆเนียนๆเมื่อเทียบกับ EKEN)
  2. ส่วน EKEN แสดงรายละเอียดของไฟล์วีดีโอได้คมชัดที่สุดในทุกสภาพแสง แต่การควบคุมโทนแสงยังไม่ดีที่สุด (รายละเอียดในส่วนมืดยังเป็นรอง GoPro โดยเฉพาะมุมที่แสงน้อยหรือมุมที่ย้อนแสง)
ในส่วนข้อดีข้อเสียของ GoPro ผมไม่ขอแยกแยะเป็นข้อๆให้นะครับจึงขอพูดแบบสรุปเท่านั้น เนื่องจากตัวผมเองยังไม่มีโอกาสได้เล่นกล้อง GoPro ด้วยตัวเองอย่างจริงๆจังๆ ภาพที่เปรียบเทียบกันข้างต้นเป็นการนำมาจากคลิปที่มีฝรั่งเคยเปรียบเทียบกันมาแล้วเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าตัวกล้องทั้งสองยี่ห้อนี้เองก็มีจุดเด่นจุดด้อยให้เห็นกันอยู่บ้างทั้งคู่ หากจะสรุปแบบสั้นๆระหว่าง EKEN H9 กับ GoPro Hero 4 Silver นี้ก็ต้องขอบอกว่า ถ้าเน้นแสงโดยรวมสว่างทั่วถึงกันพอดีๆทั้งภาพ GoPro จะดูดีที่สุด แต่ถ้าเน้นความคมชัดที่เหนือกว่ากล้องทุกยี่ห้อก็เลือก EKEN ได้เลยครับรับรองไม่ผิดหวัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแล้วแต่ว่าผู้ใช้พึงพอใจกับผลลัพท์ของไฟล์วีดีโอที่ได้และราคาที่ตัวเองพร้อมจะจ่ายแค่ไหนด้วยประการทั้งปวงครับ แต่สำหรับผมๆเลือกแล้วว่า EKEN คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับวันนี้
หน้าแรก · Smart Devices · ภาพยนต์ · คลิปวีดีโอ · สร้างรูปติดบัตรออนไลน์ · ใส่วันที่ในรูปถ่าย · นโยบายการให้บริการ
เนื้อหาสาระ · ห้องภาพมาโคร · สินค้า · ข้อมูลกล้อง · ข้อมูลเลนส์ · ข้อมูลเครื่องพิมพ์ · เปรียบเทียบสเป็ค
แสงตกกระทบวัตถุ สะท้อนเข้านัยน์ตา ปรากฎเป็นภาพ และเก็บบันทึกไว้ (โดยฟิล์มหรือดิจิตอล)...
Database and e-Commerce system design by · AnyExposure.com